ดูบทความ
ดูบทความหลักสูตร การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง อย่างมีประสิทธิภาพ (อบรม 24 มี.ค. 68)
หลักสูตร การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง อย่างมีประสิทธิภาพ (อบรม 24 มี.ค. 68)
“การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลัง
อย่างมีประสิทธิภาพ”
วิทยากร : อาจารย์ อนันต์ ดีโรจนวงศ์
ที่ปรึกษาสมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน (A.S.I.A.)
ที่ปรึกษาเครือข่าย Lean Production สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี ไทย-ญี่ปุ่น
ที่ปรึกษาอุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
ที่ปรึกษาสถานประกอบการดีเด่นโครงการ OPOAI กระทรวงอุตสาหกรรม
MBA Logistics Management
24 มีนาคม 2568
09.00 – 16.00 น.
ณ โรงแรม โกลด์ออร์คิด กรุงเทพฯ
*สถานที่จัดสัมมนาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
หลักการและเหตุผล
การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในการรับ การตรวจสอบและตรวจนับ การจัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องในส่วนขาเข้า (inbound) รวมถึง การหยิบสินค้า ตรวจสอบ และจัดส่งสินค้าให้ผู้รับเพื่อกิจกรรมการขายตามคำสั่งซื้อของลูกค้าในส่วนขาออก (Outbound) เป้าหมายหลักในการบริหารและดำเนินการจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าก็เพื่อให้เกิดระบบที่ดี มีประสิทธิภาพและคุ้มกับการลงทุน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุด เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการใช้ประโยชน์เต็มที่จากพื้นที่คลังสินค้า การจัดการคลังสินค้าจึงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งในโซ่อุปาทาน
การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control) สินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสมดุลในซัพพลายเชน เพื่อให้ระดับสินค้าคงคลังต่ำสุด โดยไม่กระทบต่อระดับการให้บริการ โดยปัจจัยนำเข้าของกระบวนการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ วัตถุดิบ ชิ้นส่วนและวัสดุต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่าสินค้าคงคลัง ต้นทุนสินค้าคงคลังเป็นต้นทุนการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนั้นการจัดการสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่สามารถมีสินค้าคงคลังบริการลูกค้าในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อการความต้องการของลูกค้าเสมอ เพื่อสร้างยอดขายและรักษาระดับของส่วนแบ่งตลาดไว้โดยสามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงด้วย
ดังนั้นการจัดการคลังสินค้าและการควบคุมสินค้าคงคลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องทำร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถป้อนวัตถุดิบให้กับสายการผลิตได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันตามเป้าหมายที่กำหนด ในขณะที่คลังสินค้ามีปริมาณสินค้าวัตถุดิบในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากและน้อยจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาด้านการผลิตซึ่งจะทำให้ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังต่ำอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ผลดำเนินการทางธุรกิจดีขึ้น พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกำไรมากขึ้น สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็วและเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่อีกต่อไป รวมถึงปัญหาการดำเนินการต่างๆภายในคลังสินค้าลดลง
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถควบคุมและเพิ่มความรวดเร็วในการการทำกิจกรรมต่าง ๆภายในคลังสินค้า
2. เพื่อลดต้นทุนและพื้นที่การจัดการปริมาณสินค้าคงคลังจำนวนมาก
3. เพื่อสามารถจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ
4. เพื่อสามารถทราบข้อมูลสินค้าคงคลังได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และครบถ้วน เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
5. เพื่อเพิ่มรอบการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังได้มากขึ้น สามารถจัดเก็บสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า
เนื้อหาของหลักสูตร
1. การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
- การจัดพื้นที่คลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การวางผังของคลังสินค้าและการจัดการการ
ไหล
- การวัดผลการปฏิบัติงานของคลังสินค้า
- การวัดอัตรารอบการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover Ratio)
2. การควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมืออาชีพ
- การจัดการและบริหารต้นทุนสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ
- Economic Order Quantity (EOQ) การสั่งซื้อที่ประหยัด
- การกำหนดค่า Safety Stock และจุดการสั่งซื้อซ้ำ (Re-order Point) ที่เหมาะสม
3. การแบ่งกลุ่มสินค้าคงคลังแบบ ABC
- การตรวจนับสินค้าตามรอบระยะเวลา (Cycle Count inventory)
- วิธีการตรวจนับสินค้าด้วยระบบ Stock Card
- การแบ่งกลุ่มสินค้าตามหลักการ Pareto
- การกำหนดปริมาณสินค้าคงคลัง Type A, B และ C
4. เครื่องมือและเทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้า
- การใช้ Barcode & RFID ในการบ่งบอกสินค้า
- การใช้ระบบ WMS (Warehouse Management System)
5. กรณีศึกษา การลดต้นทุนการดำเนินงานคลังสินค้าอย่างได้ผล
- การใช้ระบบ Pick face เพื่อการหยิบสินค้า
ประกาศนียบัตร: บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จำกัด
ราคาค่าอบรมปกติ (ต่อ 1 ท่าน)
ราคาค่าอบรมสัมมนา / ท่าน |
|||||
ประเภท |
ค่าสัมมนา |
VAT 7% |
หัก ณ ที่จ่าย 3% |
รวมจ่ายสุทธิ |
กรณีไม่มีหนังสือ |
บุคคลทั่วไป/บริษัท |
3,900.00 |
273.00 |
117.00 |
4,056.00 |
4,173.00 |
ราคาพิเศษ !!! ชำระค่าอบรมสัมมนา ก่อนวันอบรม 15 วัน |
|||||
ประเภท |
ค่าสัมมนา |
VAT 7% |
หัก ณ ที่จ่าย 3% |
รวมจ่ายสุทธิ |
กรณีไม่มีหนังสือ |
บุคคลทั่วไป/บริษัท |
3,700.00 |
259.00 |
111.00 |
3,848.00 |
3,959.00 |
วิธีการชำระเงิน:
1.โอนผ่านบัญชีธนาคาร ดังนี้
1.1 ธนาคารกรุงเทพ บัญชีสะสมทรัพย์ สาขา ซอยอารี เลขที่ 127-4-66322-6
1.2 ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์ สาขา พหลโยธิน เลขที่ 014-2-63503-8
ชื่อบัญชี บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จำกัด
2.ชำระด้วยเช็คบริษัท สั่งจ่าย บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จำกัด
3.หัก ณ ที่จ่าย 3% ทะเบียนนิติบุคคลเลขที่ 0-1055-48105-59-0
บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จำกัด
40/81 ซอยอินทามระ 8 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
4.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการไม่คืนเงินที่ได้ชำระมาแล้ว
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
- Tel. : 086-318-3152
- E-mail : hipotraining@gmail.com
- Website : www.hipotraining.co.th
- ID Line@ : @761mvknp หรือ สแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่าง
- Facebook Fan page : www.facebook.com/HIPOtraining หรือ สแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่าง
20 กุมภาพันธ์ 2568
ผู้ชม 797 ครั้ง